ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ประธานเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลัง และการพัสดุ ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เน้นย้ำผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำไปปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้
วันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลา 16.00 น. นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลัง และการพัสดุ ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการเงินการคลัง มุ่งเน้นในหลักการและสาระสำคัญของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติที่ปรับปรุงใหม่ ตลอดจนข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรค เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำไปปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ณ โรงแรม โนโวเทลมารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
นายสุรชัย กล่าวว่า การปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลัง และการพัสดุ ของทุกส่วนราชการ ถือเป็นงานที่มีความสำคัญต่อองค์กร หลักการบริหารงานในยุคปัจจุบันที่ถูกนำมาใช้ คือ 4 M (Man, Method, Money + Material และ Machine) ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลัง และการพัสดุ จำเป็นจะต้องถือยึดถือปฏิบัติตามกฎหมาย หรือระเบียบที่กำหนดในเรื่องนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของทางราชการเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ปราศจากช่องทางการทุจริต คอรัปชั่น ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ในการบริหารงานด้านการเงิน การคลัง และการพัสดุ โดยการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลัง และการพัสดุของทุกส่วนราชการ ต้องศึกษา หาความรู้ และนำมาประยุกต์ใช้ให้ถูกต้อง
การอบรมครั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังและผู้ที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานในสังกัดกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 220 คน ระยะเวลาการอบรม จำนวน 3 วัน โดยมีรูปแบบของการอบรม ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้โดยวิทยากรจากกรมบัญชีกลาง กลุ่มตรวจสอบภายใน และกองบริหารการคลัง ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับทราบแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและสามารถนำไปถ่ายทอดให้แก่ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้รับรู้ และเข้าใจได้อย่างถูกต้องและลดความผิดพลาดจากการทำงานให้มากที่สุด รวมทั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ และประสบการณ์ ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการทำงานที่สอดคล้อง เชื่อมโยง เกิดการบูรณาการที่เป็นแนวทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น