บรรยากาศภายในงานมีเหล่าดารานักแสดงนำมาร่วมพิธีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นำทีมโดยพระเอกหนุ่มมาดี โหน-ธนากร ศรีบรรจง ควงคู่มากับนางเอกสาวหน้าหวาน มิ้นท์-บารมิตา สาครจันทร์ รวมทั้งนักแสดงมากฝีมือไม่ว่าจะเป็น หมู-ภูษณะ บัวงาม, นุก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา, อู-ภาณุ สุวรรณโณ, เปิ้ล-ภารดี วงษ์สวัสดิ์, ต่าย-ชัชฎาภรณ์ ธนันทา, โตส-อัครัช จิตตะศิริ, เอ็กซ์-จาตุรงค์ โกลิมาศ, เบียร์พอล เดอ บ๊อด, เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์, ปัทมา ปานทอง, กษมา นิสสัยพันธุ์, แตน-ราตรี วิทวัส และบอล-พงษ์อนันต์ หวังสิทธิเดช
หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวง ทางผู้จัดฯ ก็นำนักแสดงและทีมงานร่วมห่มผ้า “หลวงพ่อโต” เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต และสั่งเคลื่อนกล้องถ่ายทำต่อทันที เพราะในละคร “สายเปล” มีจุดกำเนิดเรื่องราวในจังหวัดสุพรรณบุรี โดย กบ-ปภัสรา เผยถึงการบวงสรวงละครในครั้งนี้ว่า
“ด้วยเนื้อหาของละครเรื่องนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นในจังหวัดสุพรรณบุรี ตัวเอกของเรื่องอย่าง มัทรี หรือ พลับพลึง (นุก สุทธิดา) ก็เป็นนางงามเมืองสุพรรณฯ รุ่นพ่อแม่ก็พบรักกันในเมืองสุพรรณฯ รวมถึงรุ่นลูกอย่าง ภาวิน (โหน ธนากร) และ อารยา (มิ้นท์ บารมิตา) ก็มาพบรักกันในเมืองสุพรรณฯ ซึ่งมันจะมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ แล้วกองถ่ายก็ต้องมาถ่ายทำที่นี่ด้วย กบก็เลยคิดว่าน่าจะมาทำพิธีบวงสรวงที่เมืองสุพรรณฯ และวัดที่คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณฯ ก็คือ วัดป่าเลไลยก์ อันมี หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองสุพรรณฯ ด้วยค่ะ
หลังพิธีบวงสรวง เราก็ถ่ายทำต่อทันที เพื่อเก็บภาพสวยๆ บรรยากาศภายในวัด และอีกหลายๆ แห่งในเมืองสุพรรณฯ เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง-มังกรสวรรค์ ซึ่งก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของเมืองสุพรรณฯ ด้วยค่ะ
สายเปล เป็นละครดราม่าที่เข้มข้นมากๆ ตั้งแต่รุ่นย่า รุ่นพ่อรุ่นแม่ มายังรุ่นลูก เรียกได้ว่าเป็นละครที่ครบรส ครบเครื่อง คือคนดูจะได้เห็นความใจร้ายของย่าเอิบบุญ ซึ่งบทนี้กบเล่นเอง คาดว่าละครออนแอร์เมื่อไหร่ คนดูคงเกลียดกบมากๆ แต่ท้ายๆ ก็แอบมีสงสารด้วยนะคะ ส่วน น้องนุก สุทธิดา นี่ก็ดราม่าทั้งเรื่อง รับรองได้เลยว่าคนดูจะต้องเสียน้ำตาไปกับตัวละคร มัทรี หรือ พลับพลึง แน่นอน ส่วนน้องโหนก็น้องมิ้นท์ก็ประชันบทบาทกันเข้มข้น รวมทั้งนักแสดงคนอื่นๆ ด้วย กบก็ขอฝากละคร สายเปล ของค่ายปภัสราโปรดักชั่นด้วยนะคะ ใกล้ปิดกล้องละค่ะ”