กลายเป็นประเด็นร้อน ในแวดวงนางงามไปเสียแล้ว..จากกรณี ที่ มิสยูนิเวิร์สสิงคโปร์ 2023 ประกาศ จะต่อสู้เรื่องการค้ามนุษย์ในเมืองไทย ลั่นไทยคือจุดศูนย์กลางการค้ามนุษย์ ยังคงเกิดขึ้นมากมายแม้จนทุกวันนี้ ซึ่งเป็นรายงานข่าวจาก เว็บไซต์ straitstime เรียกว่าสร้างความเดือดดาล แก่บรรดาแฟนนางงามในเมืองไทยไม่น้อย
สำหรับ น.ส.ปริยังกา แอนนูนเซียอายุ 26 ปี ที่เพิ่งได้รับมงกุฎมิสยูนิเวิร์สสิงคโปร์ 2023 ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 กันยายน) ที่ผ่านมา เธอจบการศึกษาด้านกฎหมายและสาขาอาชญาวิทยา จากมหาวิทยาลัยเมอร์ด็อก โดยก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หญิงสาวได้ประกาศการตัดสินใจของเธอไว้ว่า
“ตอนนี้ฉันกล้าที่จะเข้ามาสร้างความแตกต่างในกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้ามนุษย์”.. “ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางอาชญากรรมการค้ามนุษย์ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีเหตุเกิดขึ้นมากมาย ด้วยภูมิหลังของฉันที่เคยสืบสวนเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ฉันได้ฝึกฝนทักษะมา 3 ปี และปัจจุบันก็ได้เป็นผู้นำในการสืบสวน ภารกิจช่วยเหลือ รวมถึงโปรแกรมเยียวยาฟื้นฟูเหยื่อกลับสู่สังคม”
ซึ่งแน่นอนว่า สร้างแรงกระเพื่อม ในสังคม นางงามไทยไม่น้อย ร้อนถึงนางงงามสาวใหญ่ อย่าง “หมวย รัมณีย์ อภิชัยโชติรัตน์” เจ้าของ มงกุฎ MrsTourismThailand 2023 สดๆร้อนๆ แถมเป็นเวทีสายตรงการท่องเที่ยว ซ่ะด้วย ขนาดเป็นนางงามที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง เรียบร้อย ไม่ยุ่ง..ไม่เม้าท์ ..ไม่ว้าวุ่นกับใคร นี่ก็กำลังเตรียมตัว เป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวด Mrs. Tourism2023 ที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ ในวันเสาร์ที่ 23 เวลา 11.00 น. สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วย ยังเดือดกับกรณีดังกล่าว่า โดยนางกล่าวว่า
“จากประเด็นที่มิสสิงคโปร์ได้พาดพิงถึงประเทศไทยอย่างไม่น่ารักเรื่องการค้ามนุษย์ในประเทศไทยนั้น ในความคิดเห็นของหมวยเรื่องราวในเชิงนี้เราได้ยินมาอย่างหนาหู ซึ่งเป็นเรื่องราวที่อยู่ใต้พรมของทุกๆ ประเทศมาอย่างช้านานทั้งที่ถูกกฏหมายและไม่ถูกกฏหมวย ..การพาดพิงและชี้เฉพาะในเมืองไทยนั้นเป็นเรื่องที่หมวยมองข้ามผ่านไปไม่ได้ จึงอยากเตือนว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆ ควรเริ่มจากประเทศของตนเองก่อน ก่อนที่จะเอ่ยถึงประเทศที่ 2 3 4 และควรจะเอ่ยถึงวิธีการแก้ปัญหา ด้วยว่าจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
ส่วนตัวของหมวย การที่ประเทศเป็นเมืองพุทธ เราจึงควรปลูกฝั่งจริยธรรมให้กับผู้ที่ต้องการหาความสุขในเชิงนี้ พร้อมทั้งพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับผู้หญิงไทยมีโอกาสทางด้านการศึกษาที่มากขึ้น ได้มีโอกาสในการทำงาน รวมถึงการมีรายได้ที่มากพอ ในหลากหลายอาชีพ เพื่อไม่ให้ตนเองต้องเลือกที่จะไปประกอบอาชีพที่ไม่ถูกกฏหมายและไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมไทยค่ะ
เราจึงควรปลูกฝังจิตใต้สำนึกในการดำเนินชีวิตให้ถูกครรลองครองธรรม สังคมที่ดีนั้นสามารถเริ่มต้นได้จากสถาบันครอบครัว จึงขอรณรงค์ให้แต่ละครอบครัวปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับทุกๆ คนในครอบครัวรวมถึงเยาวชนไทยทีกำลังจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตด้วยค่ะ