เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เสนอเร่งออกกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชน ย้ำชัดเยาวชนควรห่างไกลนิโคติน ขอเอ็นจีโอต่อต้านการสูบบุหรี่หยุดเอาเด็กและเยาวชนเป็นตัวประกันในการคงไว้ซึ่ง ‘แบน’
จากกรณีที่องค์กรต่อต้านการสูบบุหรี่หยิบยกกรณีของเด็กหญิงอายุ 12 ปีชาวไอร์แลนด์เหนือที่แอบผู้ปกครองใช้บุหรี่ไฟฟ้าจนเกิดอาการป่วย และอ้างว่าสุขภาพปอดเทียบเท่าคนอายุ 80 ปีมาประโคมข่าวนั้น นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ได้ให้ความเห็นว่า “ข่าวดังกล่าวเป็นเพียงความพยายามเหมารวมจากเหตุการณ์เดียวเท่านั้น เราสนับสนุนให้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพราะเราเชื่อว่าจะช่วยปกป้องเด็กและเยาวชนไทยจากการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า เช่นเดียวกับกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ระบุอายุขั้นต่ำของผู้ซื้อผู้ขาย เพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนสูบซื้อหาบุหรี่ได้และคนขายก็มีความผิด เรายังเห็นด้วยว่าผลิตภัณฑ์ที่มีนิโคตินทุกประเภทนั้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและเยาวชน”
“แต่ในปัจจุบันคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นความธรรมดาใหม่ ตามมุมสูบบุหรี่เดี๋ยวนี้แทบจะไม่มีคนสูบบุหรี่มวนแล้วด้วยซ้ำ เพราะผู้บริโภคก็หันไปใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันหมด แม้จะทราบดีว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายในไทย ซึ่งนำมาซึ่งคำถามว่า การที่เราแบนบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามซื้อ ห้ามขาย แต่ในความเป็นจริงแล้วความต้องการของผู้บริโภคนั้นมีอยู่จริงและไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงทำให้เกิดบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนที่ทะลักเข้าถึงทุกคน ผลกระทบลูกโซ่เหล่านี้ ใครจะรับผิดชอบ และหากปล่อยไว้นานกว่านี้ปัญหาจะฝังรากลึกและแก้ยากมาก” นายมาริษกล่าว
หน่วยงานด้านสาธารณสุขระดับโลกจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษ UK Office of Health Improvement and Disparities (OHID) หรือหน่วยงานสาธารณสุขนิวซีแลนด์ Ministry of Health New Zealand หรือ อย. สหรัฐอเมริกา ต่างก็ยอมรับหลักการลดอันตรายจากการเผาไหม้ของบุหรี่ไฟฟ้าและมองว่ายาสูบแต่ละประเภทมีอันตรายที่ไม่เท่ากัน ประเทศชั้นนำส่วนใหญ่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้สูบบุหรี่ในประเทศ เพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่และลดโอกาสการเกิดโรคจากการสูบบุหรี่
“เป็นที่น่าสังเกตว่า การใช้กฎหมายควบคุมการซื้อขายของบุหรี่มวนนั้นสามารถทำได้ ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีการเผาไหม้ กลับถูกปิดกั้นในฐานะสินค้าผิดกฎหมาย ทำให้เกิดการลักลอบแอบซื้อขายใต้ดิน เรามองว่า ผู้สูบบุหรี่คนไทยก็ควรมีสิทธิที่จะเลือกได้ เราจึงไม่เห็นด้วยที่หน่วยงานต่อต้านการสูบบุหรี่เบี่ยงเบนประเด็นและจับเด็กและเยาวชนเป็นตัวประกันมาอ้าง เพียงเพื่อจะคงไว้ซึ่งกฎหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้าทั้งๆ ที่ 70-80 ทั่วโลกก็มีเด็กและเยาวชนเช่นกัน”
นายมาริษปิดท้ายว่า “เราอยากให้มาคุยกันด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับและมองถึงผลกระทบในทุกมิติ มากกว่าการใช้ความหวาดกลัวชี้นำสังคมให้เข้าใจไปในทางที่ตนเองต้องการเท่านั้น