
หน้ากากดำน้ำที่ประกอบเข้ากับชุดกรองอากาศเป็นหนึ่งในงานวิจัยการพัฒนาหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลมพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูงเพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมี ผศ.นพ.อนุแสง จิตสมเกษม รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย และร่วมพัฒนากับทีมวิจัยภาควิชาเทคโนโลยี
วิทยาลัยชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
อ.พงศธร ชมดี ตัวแทนทีมวิจัยภาควิชาเทคโนโลยี วิทยาลัยชุมชนเมืองมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อธิบายว่าหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลมพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูงหรือหน้ากาก PAPR ที่พัฒนาขึ้นมานั้น มี 2 รูปแบบ รูปแบบแรกที่พัฒนาขึ้นมาก่อนประยุกต์ใช้หมวกนิรภัยสำหรับอุตสาหกรรม มีพัดลมและชุดกรองอากาศที่เป่าลมเข้าไปในหมวกเพื่อให้แรงดันในหมวกเป็นบวกเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งช่วยป้องกันอากาศจากภายนอกเข้าไปในหมวก ใช้พลังงานจากแบตเตอรีสำรองไฟหรือพาวเวอร์แบงก์ ซึ่งใช้งานได้นาน 4 – 6 ชั่วโมง จากนั้นได้พัฒนาอีกรูปแบบที่ประยุกต์หน้ากากดำน้ำมาใช้ โดยมีหลักการทำงานคล้ายกัน แตกต่างเพียงขนาดและความคล่องตัวในการใช้งาน

งานวิจัยดังกล่าวเป็นผลจากการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานเพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ไม่มีโรงพยาบาลใดๆ ในประเทศไทยหรือในโลกที่เตรียมพร้อมกับ
การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวมาก่อน ทำให้เกิดการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและหน้ากากอนามัย N95 ซึ่งปกติมีการสำรองอุปกรณ์ดังกล่าวไม่มากอยู่แล้วและมีใช้เพื่อการรักษาผู้ป่วยวัณโรคหรือผู้ป่วยอีสุกอีใส
“โรงพยาบาลไม่ได้ออกแบบมารองรับโควิด-19” รศ.นพ.อนันต์กล่าวถึงอุปสรรคต่อการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และเล่าถึงสถานการณ์เมื่อครั้งโควิด-19 ระบาดในไทยระลอกแรกว่า ประเทศผู้ผลิตอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ต่างระงับการส่งออกอุปกรณ์ดังกล่าวทำให้โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชซึ่งรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย N95 และไม่สามารถหาซื้อได้เลยในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 จึงต้องประยุกต์ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว

รศ.นพ.อนันต์กล่าว
ทางด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ในระยะแรกที่เริ่มมีการระบาดส่งผลให้อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคขาดแคลนเป็นอย่างมาก โรงพยาบาลต่าง ๆ ไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ป้องกันมาใช้งานได้อย่างเพียงพอ บุคลากรทางการแพทย์จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในขณะปฏิบัติงานสูง ดังนั้น อว. จึงมอบหมายให้ วช. ซึ่ง เป็นหน่วยงานดำเนินการด้านวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมด้านเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 วช. จึงมีการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันดังกล่าว
ภาพประกอบ
DM PAPR 1 – อ.พงศธร ชมดี
DM PAPR 2 – ชุดหน้ากาก PAPR จากหน้ากากดำน้ำ แบบ Tight-Fitting PAPR
DM PAPR 3 – ชุดหน้ากาก PAPR แบบ loose fitting PAPR
DM PAPR 4 – รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์
