กรุงเทพฯ – มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เตรียมจัดงาน “โครงการหลวง 53” (Royal Project 53) ภายใต้แนวความคิด “The Infinite Blooms” ปีนี้นับเป็นปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่ผลผลิตเติบโต ออกดอกออกผล จากการพัฒนาอย่างเต็มที่ ด้วยน้ำพระทัยดั่งสายใยที่ทอดลงมาอย่างต่อเนื่อง เปรียบดั่งการให้ที่ยิ่งใหญ่ และความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนที่ทำให้ความอุดมสมบูรณ์นี้เจริญขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสทรงมีพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ภายในงานได้เนรมิตพื้นที่จำหน่ายผลิตผลผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียม สินค้าผลผลิตทางการเกษตร ที่ปลูกโดยชาวเขาบนพื้นที่สูง สินค้าหัตถกรรม อาหารเมนูพิเศษจากวัตถุดิบคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ดอยคำ ผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์ จำลองบรรยากาศ ทุ่งดอกไม้นานาพรรณมาไว้ในศูนย์การค้า พร้อมกับการจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “สืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการหลวง” เพื่อเป็นการเผยแพร่กิจกรรมการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงตลอดระยะเวลากว่า 53 ปี โดยจะมีการจัดงานระหว่างวันที่ 4-14 สิงหาคม 2565 รวมระยะเวลา 11 วัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 1ใน 39 แห่งของโครงการหลวง ที่มุ่งเน้นพัฒนาชุมชนในพื้นที่โครงการหลวงให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการทำการเกษตรภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย (GAP) มีการถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ ไปยังเกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาด้านความรู้ โดยการทำงานวิจัย ทดสอบสาธิต เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวมทั้งการร่วมมือกับหน่วยงานราชการทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ตลอดจนการมีส่วนร่วมของชุมชนต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผลผลิตหลัก ได้แก่ กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี พริกหวาน ซาโยเต้ มะเขือเทศโครงการหลวง ข้าวโพดหวาน 2 สี แครอท มะเดื่อฝรั่ง องุ่นดำไม่มีเมล็ด สตรอว์เบอร์รี อะโวคาโด แบล็คเบอร์รี เป็นต้น นอกจากนี้ศูนย์ฯ แม่สาใหม่ ยังมีหมู่บ้านแม่สาน้อย ซึ่งเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดาวม่าง ของชนเผ่าม้ง ที่มีการผลิตเส้นใยจากกัญชง นำมาทอผ้าด้วยกี่ทอม้งแบบดั้งเดิม และได้ทดลองใช้กี่ทอเอวกึ่งอัตโนมัติต้นแบบจากงานวิจัยของโครงการหลวง นอกจากนี้ยังมีการเขียนลายขี้ผึ้งบนผ้ากัญชง และการเขียนเทียน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าม้ง
ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์โครงการหลวง อาทิ
• เอเดลไวส์ ดอกไม้ประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดอกไม้สื่อสัญลักษณ์ “รักแท้”ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี พระราชทานต้นพันธุ์ให้โครงการหลวงขยายพันธุ์และกำลังพัฒนาต่อยอดสู่การวิจัยอื่นๆ
• กัญชงหรือเฮมพ์ (Hemp) พืชเศรษฐกิจ ในพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โครงการหลวงศึกษาการเพาะปลูกเฮมพ์ โดยร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงเพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพและสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์หัตถกรรม รวมทั้งสามารถต่อยอดเป็นอาหารสุขภาพซุปเปอร์ฟู้ดที่นำผลการวิจัยไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชงสกัดเย็น และผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม อาทิ ครีมทามือ ครีมกันแดด
• กาแฟโครงการหลวง กาแฟอะราบิกาเป็นพืชยืนต้นชนิดแรกที่โครงการหลวงนำมาศึกษาวิจัยและส่งเสริม ให้ชาวไทยภูเขาปลูกทดแทน ฝิ่น โดยมีนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกจนถึงการแปรรูป จนได้กาแฟเมล็ดที่มีคุณภาพ จัดจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ “กาแฟโครงการหลวง” มีทั้งชนิดเมล็ด (Whole Bean) และ ชนิดบด (Ground Coffee)
• เคล หรือคะน้าใบหยิก ราชินีแห่งผักใบเขียว ใบสีเขียวเข้ม ขอบใบหยิกฝอย เป็นผักที่คนทั่วโลกยกให้เป็น Super Food เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปัจจุบันได้ทำผักเคลผง เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
• เมล่อนไต้หวัน 101 มี 2 สายพันธุ์คือ เนื้อสีขาวครีม และเนื้อสีเขียว โครงการหลวงนำพันธุ์เข้ามาปลูกทดสอบที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า จ. พะเยา จนสามารถส่งเสริมเป็นอาชีพแก่เกษตรกรชนเผ่าเมี่ยน หรือเย้า
• แบล็คเบอร์รี โครงการหลวง เป็นผลไม้ที่สร้างมูลค่าและรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างดี ผลสีม่วงเข้มถึงดำ ผิวเปลือกมีปุ่มกลมทั่วผล ลูกใหญ่กว่าผลราสพ์เบอร์รี รสเปรี้ยวหวาน กลิ่นหอม นิยมทานผลสด หรือทำอาหารและขนม ปลูกได้ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
• มะเขือเทศเชอร์รีเหลืองหวาน ขนาดผลเล็ก สามารถรับประทานสด ผิวมันวาว เนื้อกรอบ รสชาติหวาน ไม่ฉ่ำน้ำ เมล็ดน้อย ไม่มีกลิ่นฉุนของมะเขือเทศ อุดมไปด้วยวิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ ไลโคปีน แคโรทีนอยด์ และสารเบต้า-แคโรทีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
• ฟิกส์ หรือ มะเดื่อฝรั่งโครงการหลวง สร้างรายได้ให้กับชาวไทยภูเขาทดแทนการปลูกฝิ่น สายพันธุ์ที่ใช้ในปัจจุบันได้แก่ Black Genoa และ Black mission นอกจากนั้นยังได้มีการเก็บรวบรวมและรักษาพันธุ์ไว้ประมาณ 80 สายพันธุ์ เพื่อศึกษาและคัดเลือกพันธุ์ตลอดจนศึกษาเทคโนโลยีการจัดทรงต้นเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ณ สถานีเกษตรหลวงปางดะ
• เบญจมาศโครงการหลวงพันธุ์ใหม่ โครงการหลวงนำเบญจมาศมาปรับปรุงพันุธุ์จนได้พันธุ์ใหม่ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม และสีสีสันหลากหลาย
• คอมบูชา (ชาหมัก) และ ชาสำเร็จพร้อมชง Kombucha มีต้นกำเนิดมากว่า 2,000 ปี และเคยใช้เป็นยาอายุวัฒนะของจีนในสมัยโบราณ ด้วยกระบวนการหมักทำให้เกิดจุลินทรีย์และยีสต์สายพันธุ์ดีหรือโพรไบโอติกส์จำนวนมาก จึงถือเป็นเครื่องดื่มที่มีโยชน์มากมาย
นอกจากนี้ยังมีสินค้าใหม่อื่นๆที่มีขายเฉพาะในงานโครงการหลวง อาทิ น้ำเสาวรสน้ำผึ้ง พร้อมดื่ม, ชานม พร้อมดื่ม,กาแฟคั่ว (Honey Process), ควินัวบาร์, ผักผงโรยข้าว, นมกระบือพาสเจอร์ไรซ์, โยเกิร์ตควินัวผสมสตรอว์เบอร์รี่, ไอศกรีมนมรสมะม่วง, ไอศกรีมนมรสสตรอว์เบอร์รี, ไอศกรีมเยลลี่ผลไม้, ชาขาวผสมกุหลาบทุ่งเริง, Love Box Set ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และฝักวานิลลา ตลอดจนอาหารพร้อมรับประทาน อาทิ ข้าวซอยแห้งหน้าปลา เทร้าต์ หมั่นโถวธัญพืชโครงการหลวง เต้าหู้สองสียูนนานทอด ส้มตำอาโวคาโด ขนมชั้นผักห้าสีโครงการหลวง เป็นต้น นับเป็นโอกาสดีๆ ขอประชาชนชาวกรุงเทพฯและปริมณฑลที่จะสามารถเที่ยวชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อร่อย สด ใหม่ กว่า 3,000 รายการส่งตรงจากดอยได้ในงาน “โครงการหลวง 53” ตลอด 11 วัน ระหว่างวันที่ 4 – 14 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : CentralWorld