วันที่ 4 สิงหาคม 2565 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และมูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (บชท.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และศาสตราจารย์ ดร.อภิชัย พันธเสน ที่ปรึกษาสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมลงนามฯ ณ เวที Highlight Stage มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. ส่งเสริมและสนับสนุนองค์ความรู้การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือและขับเคลื่อนการนำองค์ความรู้ผลงานวิจัย และนวัตกรรม ไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริมการนำงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมาขยายผลให้แก่เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับพันธกิจตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน รวมถึงทิศทางการพัฒนาและการบูรณาการให้มีทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการและการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สปน. สนับสนุนความร่วมมือภายใต้ขอบเขตในเรื่องการส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในมิติด้านนโยบาย ผ่านการจัดทำแผนการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน เพื่อกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ และให้องค์กรใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่พัฒนาระดับเข้าถึงความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง นำรูปแบบการบริหารในพื้นที่ Sandbox หรือโครงการทดลอง ไปปรับใช้ในพื้นที่และลดพันธนาการที่ไม่จำเป็น เพื่อให้องค์กรได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า สถ. ส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการบริหารจัดการที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาลการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วม การบริหารงานบุคคล การเงินการคลัง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ทั้งด้านรายได้ การศึกษา การงาน อาชีพ การให้บริการสาธารณะและการพัฒนาศักยภาพชุมชนแบบมีส่วนร่วม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย โดยมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมถึงสนับสนุนให้มีการนำเครื่องมือการประเมินระดับความเป็นเศรษฐกิจพอเพียงจากผลงานวิจัยไปใช้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ร่วมกับการประเมินการดำเนินงานของท้องถิ่น โดยมีคณะนักวิจัยช่วยเป็นพี่เลี้ยง เพื่อเป็นการช่วยกันกระจายความสุขและประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ทั่วประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของแผนงานวิจัยต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร.อภิชัย พันธเสน ที่ปรึกษาสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ปัญหาหลักของประเทศไทยในขณะนี้ประกอบด้วยปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในมิติต่าง ๆ จะผ่อนคลายลงได้ถ้าได้มีการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปฏิบัติอย่างจริงจังในทุกภาคส่วนของประเทศไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ดังนั้น บชท. จึงสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำข้อมูลจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างบูรณาการและเป็นรูปธรรม และ บชท. พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการใช้เครื่องมือการประเมินระดับความเป็นเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย
พิธีลงนามความร่วมมือการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือและขับเคลื่อนการนำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศไทยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเชื่อมโยงแนวทางการปฏิบัติให้สอดคล้องกับพันธกิจตามอำนาจหน้าที่และทิศทางการพัฒนาของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
สำหรับประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Reseach Expo 2022)” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานและติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.researchexpo.nrct.go.th, Facebook Fanpage: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0 2579 1370 – 9 ต่อ 515, 517, 518, 519 และ 524 ซึ่งมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 จะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ณ ชั้น 22 – 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร