ระยะนี้ดูเหมือนว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับปัญหาของผู้ที่อยากสวยรวยเสน่ห์ด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋า ซึ่งไม่ได้เป็นหมอผู้เชี่ยวชาญเลยแม้แต่น้อย เกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการฉีดบริเวณใต้ตา ที่ทำเอาหลายคนเกือบตาบอดและเสียโฉม
จากการเปิดเผยความรู้สึกของหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน เพื่อให้ตาดูฉ่ำสวยและอิ่มเอิบกับหมอกระเป๋า เพราเห็นว่าราคาถูกมากเมื่อเปรียบเทียบกับไปในบริการในคลินิกเสริมความงาม อีกทั้งหมอกระเป๋าก็พูดดีมีหลักการ แถมยังบอกว่าทำงานในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งด้วย ตนเองจึงหลงเชื่อ
“ให้หมอกระเป๋าฉีดไป 2 ครั้ง ในราคาครั้งละ 2,000 บาท จากนั้นมาไม่นาน บริเวณใต้ตาเริ่มมีอาการอักเสบเป็นหนองจนกระทั่งต้องผ่าตัดเปิดผนังใต้ตาแก้ไขถึง 2 ครั้ง สูญเงินไปกว่า 100,000 บาท ทำให้เกือบตาบอดและใบหน้าเสียโฉม ทุกวันนี้ทุกข์ใจแถมยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากพบหน้าผู้คน นับว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต
ส่วนอีกรายเป็นสาวประเภท “พิชญา ราษฎร์นิยม” วัย 41 ปี กล่าวว่าเมื่อประมาณเดือนมกราคม ปีที่แล้ว ได้ไปฉีดหน้าเรียวกับหมอกระเป๋า เพราะเห็นว่า เพื่อนสนิทหลายคนเคยทำมาแล้ว แต่ทว่าผ่านไปได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น ใบหน้าเริ่มมีอาการอักเสบบวมโตเป็นก้อนแข็งๆ พร้อมทั้งมีหนอง จึงได้ติดต่อกลับไปยังคนฉีดเพื่อให้รับผิดชอบ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงแล้วอ้างว่าเป็นเพราะเราไม่รักษาความสะอาดเอง
ทางด้าน หมอบอย-นายแพทย์พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ครูแพทย์ผู้สอนฉีดสารเติมเต็มระดับประเทศในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้อำนวยการแพทย์ประจำศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ AIC (AIC Clinic)กล่าวว่า ถ้าอยากเสริมความงามควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์ และสิ่งสำคัญควรต้องรู้ว่าแพทย์ท่านใดจะเป็นผู้ฉีดรักษาใบหน้าให้เรา เพราะสถานพยาบาลบางแห่งมีแพทย์หลายคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดได้ ไม่ใช่ทุกคนที่ฉีดแล้วสวย จะต้องเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีความชำนาญเฉพาะทางในด้านการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมความงามหรือฉีดหน้ากับหมอกระเป๋า ให้ระวังให้ดี เพราะว่าของดีราคาถูกจะทำให้เราได้รับบทเรียนที่ราคาแพง
“หลายๆ คนยังขาดความรู้ บางคนเชื่อเพื่อน บางคนตัดสินใจจากราคาถูก บางคนเชื่อจากที่สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ถึงได้มีข่าวในทางลบออกมา ถ้าคุณคิดจะสวยด้วยแพทย์ คุณต้องหาความรู้ด้วยตัวเอง คลินิกถูกกฎหมายได้มาตรฐาน แพทย์ผู้ให้บริการมีความเชี่ยวชาญหรือเปล่า เป็นหมอจริงหรือเปล่า ใบอนุญาต ใบประกอบวิชาชีพถ้าตรวจสอบได้ก็ให้ตรวจสอบ เพราะไม่ใช่จบหมอสาขาไหนจะมาทำก็ได้ แทนที่จะสวยก็กลายเป็นหน้าเสียไปแทน ไม่ว่าจะเทคโนโลยีนวัตกรรมความงามใดๆ จะเข้ามา สิ่งสำคัญผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับแวดวงความงาม โดยเฉพาะผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญความงามจำเป็นต้องรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้คือ ความหมายหรือว่านิยามของคำว่า “ความสวย” หรือ “ความงาม” เพราะไม่ว่าคนนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนก็ตามหากไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ความงามแล้วผลงานการรักษาย่อมออกมาไม่ดีแน่”