“มูลนิธิไทย” ชูนโยบายส่งเสริมนิยมไทย เตรียมมอบรางวัลการทูตสาธารณะ ปี 67เชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ที่สร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทย

16 พฤษภาคม 2567 – กรุงเทพฯ / นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย ร่วมแถลงข่าวโครงการทูตสาธารณะ ประจำปี 2567 (Public Diplomacy Award 2024) เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ที่ดำเนินงานด้านสาธารณประโยชน์ มนุษยธรรม ส่งเสริมวัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม เป็นต้น จนสามารถสร้างชื่อเสียงแก่คนไทยและประเทศไทย และได้รับการยอมรับในต่างประเทศ พร้อมเชิญชวนเสนอชื่อผู้สมควรเข้ารับการคัดเลือกได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 – 15 สิงหาคม 2567 สามารถส่งแบบเสนอชื่อได้สองช่องทาง ได้แก่ ทางไปรษณีย์ไปยังมูลนิธิไทย กระทรวงต่างประเทศ หรือทางอีเมล info@thailandfoundation.or.th

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงที่มาของการทูตสาธารณะว่า ทางกระทรวงฯ ตระหนักดีว่าเรื่องการทูตไม่ใช่แค่เรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ หรือแค่ภาครัฐเท่านั้น ที่ดำเนินการในเรื่องของการส่งเสริมความสัมพันธ์ โดยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีหลายระดับ ทั้งความสัมพันธ์ระดับรัฐต่อรัฐ ระหว่างรัฐบาลต่อหน่วยงานราชการ ความสัมพันธ์ด้านธุรกิจการค้ากับภาคเอกชน รวมทั้งความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งมีพี่น้องคนไทยจำนวนมากที่ช่วยสร้างความตระหนักรับรู้ ความนิยมชมชอบเกี่ยวกับประเทศไทย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม และเพื่อสร้างสังคมที่ส่งเสริมคนดี และเชิดชูบุคคลเหล่านั้น ทางกระทรวงฯ จึงได้หารือกับมูลนิธิไทย จัดโครงการรางวัลการทูตสาธารณะ เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่มีการดำเนินงานเพื่อสาธารณะประโยชน์ มนุษยธรรม ส่งเสริมวัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม เป็นต้น จนสามารถสร้างชื่อเสียงแก่คนไทยและประเทศไทย และได้รับการยอมรับในต่างประเทศ”

ด้าน นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย กล่าวว่า การทูตสาธารณะ (Public Diplomacy) เป็นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีไปยังชาวต่างประเทศโดยตรง เพื่อให้เขารู้จัก เข้าใจประเทศไทย คนไทยและความเป็นไทยดีขึ้น เกิดเป็นความนิยม ชื่นชม หรือเรียกว่าการสร้าง “แฟนคลับ” ให้กับประเทศไทย คนไทย และความเป็นไทยนั่นเอง

รางวัลการทูตสาธารณะนี้ เป็นความตั้งใจที่จะเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศตามที่กล่าวมา และยังต้องการสนับสนุนให้ผู้รับรางวัลสามารถดำเนินงานตามเจตนารมณ์ที่ดีต่อไป อีกทั้งเป็นแบบอย่างให้แก่บุคคลและองค์กรอื่นๆ ด้วย ขณะเดียวกันก็ต้องการให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักและเข้าใจถึงบทบาทของการทูตสาธารณะมากยิ่งขึ้น และสร้างการรับรู้ว่าประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานการทูตสาธารณะได้เช่นกัน

พิธีมอบรางวัลการทูตสาธารณะ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2565 โดยผู้ได้รับรางวัลคนแรกคือนายแพทย์สุนทร อันตรเสน แพทย์เฉพาะทางแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลราชวิถี ที่มีความปรารถนาดี อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้ตั้งหน่วยแพทย์อาสาจากทุนทรัพย์ของตนเองเพื่อเดินทางรักษาผู้ป่วยโรคหูน้ำหนวกทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 30 ปี รักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่า 70,000 รายใน 10 ประเทศ และในปี 2566 ได้มีการมอบรางวัลให้แก่ “โปรโม” โมรียา และ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟหญิงอาชีพชาวไทย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใน LPGA Tour และได้ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยหันมาสนใจกีฬากอล์ฟเป็นจำนวนมาก จนหลายคนประสบความสำเร็จในระดับโลกและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองยังช่วยเผยแพร่ความเป็นไทยไม่ว่าจะเป็นการไหว้ รอยยิ้มและความมีน้ำใจ อีกทั้งยังได้ตอบแทนสังคมผ่านการจัดตั้งมูลนิธิโมรียาและเอรียา เพื่อช่วยเหลือเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งมีบทบาทในการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สำหรับรางวัลการทูตสาธารณะประจำปี 2567 นี้ มีจำนวน 1-3 รางวัล จะมอบให้แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทั้งสัญชาติไทยหรือต่างชาติ โดยมูลนิธิไทย และ กต. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัล ประจำปี 2567 ภายใต้คณะกรรมการมูลนิธิไทย ประกอบด้วยข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการมูลนิธิไทย ผู้แทนภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน จำนวนรวม 10 คน ร่วมกันพิจารณาผลงานของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และคัดกรองผู้สมควรได้รับรางวัลเพื่อเสนอ

รางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย 1) การจารึกชื่อผู้ได้รับรางวัลบนถ้วยรางวัลที่มีชื่อว่า “Goodwill” หรือ “ความปรารถนาดี” ซึ่งจะจัดแสดงที่ กระทรวงการต่างประเทศ 2) ถ้วยรางวัลจำลองที่มีการสลักชื่อมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ได้รับรางวัล 3) การจารึกชื่อบนแผ่นป้ายเกียรติยศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ 4) ประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณ และ 5) เงินรางวัลจำนวน 300,000 บาท/รางวัล โดยจะประกาศผลผู้ได้รับรางวัลภายในเดือนสิงหาคม 2567 และพิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นในปลายปีนี้

ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปสามารถร่วมเสนอชื่อบุคคล กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่สมควรได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2567 ได้ เปิดรับการเสนอชื่อตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ถึง 15 สิงหาคม กรกฎาคม 2567 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-203-5000 ต่อ 11031 หรืออีเมล info@thailandfoundation.or.th และติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิไทย www.thailandfoundation.or.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *