กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต “ชุดทดสอบสารพาราควอตตกค้างในผักและผลไม้สด” ให้เอกชนผลิตจำหน่ายให้กับประชาชน และหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เข้าถึงชุดทดสอบนี้ได้ง่ายขึ้น ใช้เป็นเครื่องมือตรวจคัดกรองผักผลไม้เบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต “ชุดทดสอบสารพาราควอตตกค้างในผักและผลไม้สด”  ให้เอกชนผลิตจำหน่ายให้กับประชาชน และหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เข้าถึงชุดทดสอบนี้ได้ง่ายขึ้น  ใช้เป็นเครื่องมือตรวจคัดกรองผักผลไม้เบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

วันนี้ (26 สิงหาคม 2567) นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธานในพิธี   ลงนามสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชุดทดสอบอิมมูโนโครมาโตกราฟี สำหรับตรวจหาสารพาราควอต  ตกค้างในผักและผลไม้สด ระหว่าง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับ บริษัท ยูแอนด์วี โฮลดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โดยมี นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นางวิชาดา จงมีวาสนา ผู้อำนวยการสำนักคุณภาพและ ความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายนิรันดร์ ตั้งกิจวาระฐี กรรมการ บริษัท ยูแอนด์วี โฮลดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมลงนาม และมีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ทั้งสองฝ่าย เป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 110 อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดนนทบุรี 

นายแพทย์ยงยศ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในฐานะที่เป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศ ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจหลักในการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม เพื่อนำไปใช้ในงานเฝ้าระวังสุขภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากพาราควอต เป็นสารกำจัดวัชพืชที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงได้พัฒนา ชุดทดสอบสารพาราควอตตกค้างในผักและผลไม้สด ด้วยเทคนิคอิมมูโนโครมาโตกราฟี เป็นวิธีการตรวจสอบคัดกรองเบื้องต้น  ที่มีความถูกต้องแม่นยำ  และทราบผลภายใน 30 นาที สำหรับนำไปตรวจคัดกรองผักและผลไม้สด ที่มีการจำหน่ายและนำเข้าประเทศไทย 

สำหรับชุดสอบนี้ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางอิมมูโนโครมาโตกราฟี (Immunochromatography) หรือ IC ซึ่งอาศัยหลักการจับกันระหว่างแอนติบอดี และแอนติเจนแบบแข่งขัน (Competitive immunoassay) เป็นวิธีที่สะดวก มีประสิทธิภาพ มีความไวในการตรวจสอบ และไม่ต้องใช้เครื่องพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งมีลักษณะการใช้งานคล้ายกับชุดตรวจโรคโควิด 19 หรือ ATK  ใช้งานง่าย ประชาชนทั่วไปก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบผลการตรวจของชุดทดสอบ  กับการตรวจด้วยวิธีมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ พบว่า ชุดทดสอบมีความจำเพาะเจาะจง 100% ความไว 92.5%  ความแม่นยำ 95% ความเที่ยง 100% และมีเกณฑ์การวัดขั้นต่ำสุดที่สามารถตรวจพบได้ที่ 0.005 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (mg/kg) ซึ่งตรงตามระดับที่กฎหมายกำหนด ชุดทดสอบนี้ผ่านการทดสอบภาคสนาม และจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สิน ทางปัญญาแล้ว  

“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีความห่วงใยใส่ใจผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้ความร่วมมือกับบริษัท ยูแอนด์วี โฮลดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชุดทดสอบ   สารพาราควอตตกค้างในผักและผลไม้สด ด้วยเทคนิคอิมมูโนโครมาโตกราฟี ให้บริษัทสามารถผลิตเผยแพร่ชุดทดสอบ และจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค และประชาชนเข้าถึงได้ง่าย   ผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการ สามารถนำไปใช้ตรวจสอบคัดกรองเบื้องต้น สร้างความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัย  ของผักและผลไม้สดที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดของประเทศ” นายแพทย์ยงยศ กล่าว  

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *