บุหรี่เถื่อนยังรุนแรง! สหภาพยาสูบวอนรัฐซีลชายแดน จับเข่าคุยประเทศต้นทาง

บุหรี่เถื่อนยังรุนแรง! สหภาพยาสูบวอนรัฐซีลชายแดน จับเข่าคุยประเทศต้นทาง

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ เผย สถานการณ์บุหรี่เถื่อนปี 2567 ยังรุนแรง สตูลแซงขึ้นอันดับหนึ่งแชมป์บุหรี่เถื่อนสูงสุด การสำรวจช่วงสิ้นปีพบตัวเลขลดลงจากต้นปีเพียง 0.1% เท่านั้น วอนรัฐบาลยกระดับเป็นวาระระหว่างประเทศ คุมเข้มชายแดน การผ่านแดน จากประเทศเพื่อนบ้าน

ผลการสำรวจซองบุหรี่เปล่าช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 เพื่อดูแนวโน้มอัตราการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายของประเทศไทยพบว่า อัตราการบริโภคบุหรี่ที่มิได้เสียภาษีอยู่ที่ 25.4% ซึ่งทรงตัวจากการสำรวจในไตรมาสที่ 1 ของปีเดียวกันที่อยู่ที่ 25.5% โดยพบว่า จังหวัดที่มีอัตราการบริโภคบุหรี่ที่มิได้เสียภาษีสูงที่สุดในประเทศไทยยังคงกระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ตอนล่าง โดยพบมากที่สุดในจังหวัดสตูล (97%) สงขลา (88%) พัทลุง (78%) ภูเก็ต (72%) นครศรีธรรมราช (68%) และระนอง (65%) ตามด้วยจังหวัดในภาคกลางอย่าง นนทบุรี (49%) สมุทรปราการ (43%) และกรุงเทพมหานคร (39%)

การสำรวจในครั้งนี้พบว่าจังหวัดสตูลมีการเติบโตของการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายที่รุนแรงมากขึ้น โดยขยับแซงหน้าสงขลาขึ้นมาครองอันดับหนึ่งพื้นที่ที่มีการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายที่สูงที่สุดของประเทศไทย และยังพบการเติบโตอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เมืองหลวงและเขตพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีการกระจายตัวของการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายที่เข้มข้นอยู่ สิ่งที่น่าสนใจของการสำรวจในครั้งนี้คือ การทะลักของบุหรี่ผิดกฎหมายในภาคตะวันตกของประเทศไทย โดยการสำรวจพบว่าจังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี มีแนวโน้มการบริโภคบุหรี่จากต่างประเทศที่มิได้เสียภาษีเพิ่มมากขึ้นกว่า 300% จากการสำรวจครั้งก่อน

นายสุเทพ ทิมศิลป์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ กล่าวว่า “ขอเป็นตัวแทนอุตสาหกรรมยาสูบขอบคุณหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานที่ปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นตลอดปี 2567 แม้ผลที่ออกมาจะยังทรงตัวและบุหรี่ที่มิได้เสียภาษียังอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่เชื่อว่าทุกหน่วยงานพร้อมจะเดินหน้าสู้กับบุหรี่เถื่อนไปด้วยกันต่อในปี 2568 นี้ ผลที่ออกมายืนยันได้อย่างหนึ่งว่าการปราบปรามในประเทศเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ เพราะยังคงมีช่องว่างใหม่ๆ ที่ทำให้บุหรี่เถื่อนทะลักเข้ามาในประเทศไทยได้”

นายสุเทพ กล่าวเสริมว่า “มีข้อมูลว่ามีการทะลักของบุหรี่เถื่อนตามแนวชายแดนภาคตะวันออกที่ติดกับประเทศกัมพูชา เช่น จันทบุรี ตราด สระแก้ว บุหรี่เถื่อนเข้ามาทางภาคใต้ และยังมีบุหรี่ผ่านแดนที่มาใช้ไทยเป็นทางผ่านไปประเทศที่สามแต่กลับนำสินค้าวกกลับเข้ามาขายในประเทศหลังผ่านพิธีการศุลกากรในภาคใต้ บุหรี่เถื่อนจึงเป็นเรื่องระดับภูมิภาค ใหญ่เกินกว่าที่เราจะจัดการเองในประเทศเพียงอย่างเดียว จึงอยากขอร้องรัฐบาลซีลชายแดนอย่างเข้มข้น ยกระดับการปรามปรามในประเทศอย่างจริงจัง และจัดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ เพื่อหยุดยั้งการทะลักของบุหรี่เถื่อนที่ไหลเวียนอยู่ในภูมิภาค เช่นเดียวกับกรณีแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่นอกประเทศ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *