การท่องเที่ยว“ไหโข่ว” จับมือสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ชวนคนไทยสัมผัสเกาะไหหลำ”ดาวเด่นท่าเรือการค้าเสรี” ในทะเลจีนใต้ ชูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม



ในโอกาสปี 2568 ครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมโรงแรมแกรนด์ เอเทรียม กรุงเทพ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเมืองไหนโขว่ มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน ทางด้านการท่องเที่ยวได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไห่โขว่ อาทิ ฝ่ายประชาสัมพันธ์เมืองไห่โข่ว สำนักงานการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม, วิทยุโทรทัศน์และกีฬา เมืองไห่โข่ว ฝ่ายประชาสัมพันธ์เขตเหมยหลาน เมืองไหโข่ว ฝ่ายประชาสัมพันธ์เขตชิงซาน เมืองไหนโข่ว โดยมีบริษัทท่องเที่ยวของไทยหลายแห่งเข้าร่วม รวมทั้งสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวด้วย
ในการประชุมร่วมกันครั้งนี้ ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างคุณสุนันทา เอื้ออำพน อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวกับคุณหม่า เหว่ยเหวิน นายกสมาคมการท่องเที่ยวเมืองไหโขว่ด้วย เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไหนโขว่
คุณหม่า เหว่ยเหวิน กล่าวว่า
การมาที่กรุงเทพมหานครครั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลองมิตรภาพระหว่างไหโข่วกับกรุงเทพฯ ในฐานะ “เมืองคู่แฝดในเขตร้อน” ซึ่งปัจจุบัน กรุงเทพฯ ถือเป็นอัญมณีอันเจิดจ้าของการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ไหโข่วได้รับการยกย่องให้เป็น “ดาวเด่นของท่าเรือการค้าเสรี” ในทะเลจีนใต้
คุณหม่า เหว่ยเหวิน กล่าวอีกว่า สายสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยมีความลึกซึ้ง โดยทำการค้าร่วมกันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น และเส้นทางสายไหมทางทะเลในสมัยราชวงศ์ถังและซ่งทำให้เกาะไหหลำและไทยเชื่อมโยงกันมากขึ้น โดยเมืองทั้งสองอยูในภูมิอากาศร้อนชื้นและเชื่อมโยงกันด้วยการท่องเที่ยว ในนามของไหโข่ว ขอต้อนรับทุกท่านอย่างอบอุ่น และขอขอบคุณประเทศไทยที่สนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวของไหโข่ว
นายกสมาคมการท่องเที่ยวเมืองไหโข่ว กล่าวด้วยว่า ปี 2025 ถือเป็นวันครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และเป็นปีที่ท่าเรือการค้าเสรีไหหลำจะบรรลุการดำเนินการศุลกากรแบบอิสระและการเปิดกว้างมากขึ้น เพื่อให้เป็นเขตบุกเบิกหลักของท่าเรือการค้าเสรีไหหลำ เป็นเมืองแห่งความเปิดกว้างและเสรีภาพ เน้นการก่อสร้างท่าเรือการค้าเสรี ให้เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมและการบูรณาการ ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการพัฒนาบุคลากร
รวมทั้งพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งการบริโภคที่มีชีวิตชีวา กระจายรูปแบบธุรกิจ ให้เป็นเมืองแห่งความยั่งยืนทางนิเวศ พร้อมให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมมาตรฐานสูง เมืองแห่งความน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย ด้วยการปรับปรุงบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ซึ่งมีรากฐานมาจากการอนุรักษ์มรดกและนวัตกรรม
“ด้วยวิสัยทัศน์หลักเหล่านี้ ไหโข่วจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องการสำหรับงานวัฒนธรรมระดับนานาชาติ โดยเมืองไหโข่วกำลังสร้างตัวเองให้เป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของ เศรษฐกิจการแสดง อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2023 ที่นี่ได้จัดคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ 33 งาน ดึงดูดผู้ชมได้ 600,000 คน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวมประมาณ 3,300 ล้านหยวน ต่อไป อีกทั้งมีแผนที่จะบูรณาการ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม + การแสดง กีฬา และนิทรรศการ ต่อไป โดยยังคงดึงดูดศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เทศกาลดนตรี กีฬาชายหาด เรือใบ พายเรือซับบอร์ด และงานที่มีชื่อเสียงต่างๆมายังเมืองไหโข่ว”
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางศิลปะการแสดงที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการทัวร์เอเชียของศิลปินชื่อดังจากยุโรปและอเมริกามาอย่างยาวนาน เรามุ่งหวังที่จะร่วมมือกับองค์กรวัฒนธรรมและคณะแสดงของไทยเพื่อสร้างพันธมิตรการแสดงไหโข่ว-กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน ด้วยการผสมผสานจุดแข็งของเรา เรามุ่งหวังที่จะดึงดูดศิลปินระดับโลกให้มาแสดงในเอเชียมากขึ้น และพัฒนาตลาดวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมกัน ทำให้เมืองไหโข่วเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทย
กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น “หัวใจ” ของการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไหโข่วซึ่งเป็น “ประตู” สำหรับการมีส่วนร่วมของจีนกับอาเซียน ต่างก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับภูมิภาคที่มีศักยภาพมหาศาล สำหรับความร่วมมือ นโยบายการยกเว้นวีซ่าสำหรับผู้อยู่อาศัยใน 59 ประเทศได้ปรับปรุงขั้นตอนการเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาเยือนเกาะไหหลำ เมื่อเดือนธันวาคม 2567 จำนวนเที่ยวบินระหว่างไหโข่วและกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นเป็น 20 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นักท่องเที่ยวสามารถบินเพียงสามชั่วโมงเพื่อ “เพลิดเพลินกับสวนมะพร้าวของเกาะไหหลำในตอนเช้าและล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาในตอนเย็น หรือ “ลิ้มรสต้มยำในกรุงเทพฯ ในตอนเช้าและลิ้มรสไก่เหวินชางในไหหลำช่วงบ่าย” ได้ตลอดเวลา เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบายเพราะมีสายการบินที่บินตรงระหว่างสองเมืองนี้
“สมาคมการท่องเที่ยวเมืองไหโข่ว มุ่งหวังที่จะร่วมงานกับสมาคมและบริษัทการท่องเที่ยวของไทย ในการเปิดตัวแพ็คเกจทัวร์ระดับพรีเมียม ทัวร์กลุ่มเล็ก และเส้นทางข้ามภูมิภาค เพื่อบรรลุการแบ่งปันทรัพยากรและการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เสริมซึ่งกันและกัน ผ่านการเชื่อมโยงเส้นทาง การแบ่งปันข้อมูล และการตลาดร่วมกัน เพื่อสร้างเส้นทางและแบรนด์ เมืองแฝดเขตร้อน ด้วยการใช้จุดแข็งของสองเมือง ซึ่งสามารถบรรลุการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปีได้ โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการเติบโตใหม่ให้กับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของสองเมืองนี้”นายกสมาคมการท่องเที่ยวเมืองไหโข่ว กล่าว
ทางด้านคุณสุนันทา กล่าวว่า คนไทยรู้จักเมืองไหโข่ว ในนามเกาะไหหลำ ซึ่งมีทะเลและมีภูมิอากาศเหมือนบ้านเรา รวมทั้งอาหารทะเลด้วย แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เป็นเมืองที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว จุดเด่นคือค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ เมื่อไปจีนก็อยากสัมผัสอากาศหนาวและหิมะมากกว่า จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้รับรู้ถึงสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวในเมืองไหโข่วให้มากขึ้น




