ดร.พีระพงษ์ ไพรินทร์ หัวหน้าพรรคไทยรักกัน ระบุต้องการเสนอแก้ไขกฎหมายปลดกัญชาออกยาเสพติด เพื่อให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ พืชทางการแพทย์ พืชครัวเรือน ที่ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเสรีแท้จริง และให้บริการสาธารณสุขให้มีเอกภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากการบริหารของหน่วยงานรัฐต่างคนต่างทำไม่เป็นระบบ ไม่มียุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการปัญหากัญชาร่วมกัน พร้อมจะบริหารจัดการการตลาด ราคา ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันมิให้มีกลุ่มนายทุนหรือนักการเมืองมาแสวงหาประโยชน์ และปลดภระหนี้ของประเทศภายใน 4 ปี พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า ทุกวันนี้คนไทยที่ปลูกกัญชา ถูกจับเข้าคุกด้วยมือของคนไทยด้วยกันเองแทบทุกวัน ทั้งที่กัญชาได้รับการรับรองจาก 67 ประทศทั่วโลก และกัญชาไทยก็เป็นสายพันธุ์ดีที่สุดในโลก เหตุใดจึงต้องถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ และการให้เกษตรกรผลิตกัญชาร่วมกับบริษัทเอกชน เกษตรกรจะได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่และเกษตรกรจะตกเป็นครื่องมือของบริษัทเอกชนหรือไม่
“เวลานี้ประเทศไทยมีหนี้สิน 17 ล้านล้านบาท โดย 11 ล้านล้านแรก เกิดจากหนี้สินครัวเรือนในประเทศที่มีประมาณ 21 ล้านครัวเรือน ตกคนละ 550,000 บาท ในขณะที่ประเทศมีหนี้สินจากการเงินการคลังและหนี้สินจากการกู้ประมาณ 7 ล้านล้านบาท รวมกันแล้วประมาณ 18 ล้านล้านบาท หากนโยบายเสรีกัญชาเกิดขึ้น เราจะเอาพื้นที่ที่มีอยู่ 321 ล้านไร่ ออกมาเพียง 5% หรือประมาณ 17 ล้านไร่ เราจะบูรณาการกฎหมายให้มีกฎหมายฉบับเดียวในการจัดการที่ดิน ในการจัดการต่อคุณภาพการศึกษา”หัวหน้าพรรคไทยรักกัน กล่าว
ดร.พีระพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การจัดการตลาดจะต้องอยู่ในระบบรัฐต่อรัฐ ให้ประชาชนปลูกร่วมกันโดยกระบวนการหาทุนมาให้โดยไม่ต้องผ่านเอกชน และขายสู่ประเทศทั่วโลก วิธีการรัฐต่อรัฐทำให้เอกชนไม่สามารถเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ของประชาชน และหากพรรคไทยรักกันได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล ขอยืนยันว่าจะจดสิทธิบัตรกัญชาหางกระรอกในวันนั้นทันที