(22 เมษายน 2564)ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 944 ล้านโดส ใน 188 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 15.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 216 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 87.6 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 26.9 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค(19.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 17.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 864,840 โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 47%
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 944 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 215.95 ล้านโดส (33.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. จีน จำนวน 198.97 ล้านโดส (7.1%)
3. อินเดีย จำนวน 132.24 ล้านโดส (4.8%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 8 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. อิสราเอล (57.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (46,1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. มัลดีฟส์ (46%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
4. บาห์เรน (37.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. ชิลี (34.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สหรัฐอเมริกา (33.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และJohnson&Johnson)
7. สหราชอาณาจักร (32.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และPfizer/BioNTech)
8. ภูฏาน (32.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 47.12%
2. อเมริกาเหนือ 25.93%
3. ยุโรป 18.01%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.99%
5. แอฟริกา 1.74%
6. โอเชียเนีย 0.21%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดสได้แก่
1. สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และModerna
2. กัมพูชา จำนวน 1,775,364 โดส (5.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
3. อินโดนีเซีย จำนวน 17,920,908 โดส (3.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac
4. มาเลเซีย จำนวน 1,231,760 โดส (1.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และSinovac
5. พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
6. ลาว จำนวน 156,818 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
7. ฟิลิปปินส์ จำนวน 1,812,420 โดส (0.7% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และAstraZeneca
8. ไทย จำนวน 864,840 โดส (0.7% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และAstraZeneca
9. บรูไน จำนวน 2,323 โดส (0.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
10. เวียดนาม จำนวน 108,897 โดส (<0.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 22 เมษายน 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 2,159,319 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 864,840 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 746,617 โดส
-เข็มสอง 118,223 โดส
-บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข และ อสม. 47%
-ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 31.5%
-เจ้าหน้าที่อื่นๆที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 14%
-ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 3.5%
-บุคคลที่มีโรคประจำตัว อย่างละ 4%
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)