(29 เมษายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 1,082 ล้านโดส ใน 191 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 20.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 235 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 98 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 30.49 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (19.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่19.8 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 เมษายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 1,344,646 โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 51.7% ในการฉีดวัคซีน จำนวน 1,082 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 235.98 ล้านโดส (8.4%)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 234.64 ล้านโดส (36.5% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
3. อินเดีย จำนวน 149.88 ล้านโดส (5.5%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. อิสราเอล (57.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
2. มัลดีฟส์ (52%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (48.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. บาห์เรน (40.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. ชิลี (37.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สหรัฐอเมริกา (36.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และJohnson&Johnson)
7. สหราชอาณาจักร (35.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และPfizer/BioNTech)
8. ภูฏาน (32.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
9. ฮังการี (28.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10. กาตาร์ (26.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 48.16%
2. อเมริกาเหนือ 24.78%
3. ยุโรป 18.01%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.11%
5. แอฟริกา 1.72%
6. โอเชียเนีย 0.22%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดสได้แก่
1. สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และModerna
2. กัมพูชา จำนวน 2,117,564 โดส (6.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
3. อินโดนีเซีย จำนวน 19,890,198 โดส (3.6% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac
4. มาเลเซีย จำนวน 1,409,215 โดส (2.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และSinovac
5. ลาว จำนวน 236,979 โดส (1.6% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
6. บรูไน จำนวน 10,715 โดส (1.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
7. ไทย จำนวน 1,344,646 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และAstraZeneca
8. พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ฟิลิปปินส์ จำนวน 1,809,801 โดส (0.8% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และAstraZeneca
10. เวียดนาม จำนวน 425,638 โดส (0.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 29 เมษายน 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 2,038,609 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 1,344,646 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 1,059,721 โดส
-เข็มสอง 284,925 โดส
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)