ช่อง 3 ใส่เกียร์เดินหน้าชวนคลายความคิดถึงบ้านลดความทุกข์ใจไปกับละครไฮไลท์ของปี 2564 กับละครแนวฟีลกู๊ด โรแมนติก คอมเมดี้ผสมผสานกลิ่นอายถิ่นอีสาน “มนต์รักหนองผักกะแยง”สร้างจากบทประพันธ์ที่ได้รับการชนะเลิศ การประกวดของทางกระทรวงวัฒนธรรมโดยได้ “บีบี เอกนรี วชิรบรรจง” ทายาท “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ขึ้นแท่นผู้จัดฯ ละครเต็มตัวเรื่องแรก ภายใต้ บริษัท ดูเอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด พร้อมกับการคว้าพระเอกแม่เหล็กระดับซุปตาร์อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ในบท เขียว ประกบคู่นางเอกน้องใหม่ “โบว์ เมลดา” ในบท ชมพู่ กับผลงานเรื่องแรกของทางช่อง 3 นอกจากนี้ยังมากไปด้วยนักแสดงสายตลก นักร้องลูกทุ่งอีสาน อีกคับคั่ง อาทิ แดนนี่ ลูเซียโน่, นับตังค์ นันท์ณภัส, เต๋า ภูศิลป, เปรี้ยว อนุสรา, น้อย โพธิ์งาม, หยอง ลูกหยี, สมจิตร จงจหอ, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ชไมพร สิทธิวรนันท์ ฯลฯ การันตีความฮาแน่นอน
เรื่องราวในละคร มนต์รักหนองผักกะแยง เป็นการเล่าเรื่องราวของพระเอก แบรี่(ณเดชน์ คูกิมิยะ) ที่รับบทเป็น เขียวเขาได้มาเรียนและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ แต่แล้วชีวิตกลับพลิกผันต้องซมซานกลับถิ่นฐานเดิมบ้านหนองผักกะแยง และไปพบกับเรื่องราวในอดีตความอบอุ่นในชุมชนบ้านหนองกะแยง ประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสาน และได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรกรรม ทำให้พระเอกหลงรักในวิถีชีวิตอันเรียบง่าย และเกิดเรื่องราวมากมาย รวมถึงความรักกับคู่ปรับเพื่อนวัยเยาว์อย่างชมพู่ (โบว์ เมลดา) ที่เข้ามาสกิดใจบักเขียว
นอกจากจะเป็นละครคลายเครียดขายขำแล้วยังสอดแทรกหลักเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรอินทรีย์ผ่านการถ่ายทอดของตัวละครในเรื่อง รวมถึงการยึดสถาบันครอบครัวเป็นหลักในการดำเนินชีวิตตามคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ดีที่สุด คือบ้านของเรา” ของผู้กำกับฯ “อ๊อฟ พงพัฒน์” ด้านผู้จัดฯ ลูกสาว “บีบี เอกนรี”ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นมาของละครเรื่องแรกที่เจ้าตัวดูแลเต็มตัวว่า
“บีมาทำหน้าที่ผู้จัดละครเต็มตัวเรื่องแรก เกร็ง และกดดันมาก ๆ บีทำการบ้านอย่างหนักร่วมกับคุณพ่อ พยายามปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้เป็นไปตามสถานการณ์ ให้ทันสมัย เพื่อให้เนื้อเรื่องออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนคุณแม่ก็จะดูเรื่องแคสติ้งนักแสดง เราพยายามใช้นักแสดงที่เป็นคนอีสานจริงๆ เพื่อให้ได้กลิ่นอายของความเป็นอีสาน มีความเป็นคนพื้นถิ่น นักแสดงบางคนที่ไม่ใช่อีสานแท้ๆ ก็ต้องมาฝึกฝนออกเสียงพูดเยอะๆ สำหรับพระนาง ในเรื่องนี้อย่าง โบว์ เมลดา เจอตั้งแต่วันที่มาฟิตติ้ง เห็นความแก่น ความน่ารักเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับบทนี้มาก แล้วโบว์ก็เป็นคนขอนแก่นพูดอีสานได้ อาจจะมีเรื่องที่ต้องปรับเรื่องสำเนียงบ้าง เพราะไม่ได้พูดบ่อย แต่พอเข้าฉากบ่อยๆ ก็เริ่มไหลลื่นไปได้ค่ะ ส่วนพระเอก ณเดชน์ คนนี้ให้เกินร้อยเลยค่ะ ตั้งใจทำงานมาก ทุ่มเทกับทุกอย่าง ประทับใจมากๆ ซึ่งโดยภาพรวม เราโชคดีที่ได้นักแสดงเป็นทีมที่ดีมาก ทำให้การทำงานเป็นไปได้ด้วยดีมาตลอดค่ะ”
ด้าน “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ละครเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับพี่อ๊อฟ แบบเต็มตัว เคยมีเจอกันบ้างตอนซีรีส์ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอนมาเล่นรับเชิญในเรื่องของพี่อ๊อฟ แล้วก็มีภาพยนตร์นาคี ที่ได้พบกับพี่อ๊อฟ ซี่งในส่วนของละคร มนต์รักหนองผักกะแยง จึงเป็นการทำงานแบบเต็มตัวครั้งแรกที่ได้ทำงานกับพี่อ๊อฟ ซึ่งผมแฮปปี้มีความสุขมาก ได้เล่นละครเรื่องนี้เหมือนได้อยู่บ้าน ได้ทำงานกับคนในครอบครัว ได้พูดภาษาอีสาน กินอาหารอีสาน ได้รับรู้เรื่องราวของประเพณีอีสาน แล้วเนื้อเรื่องก็ยังแทรกเกี่ยวกับความรู้ในการทำเกษตร ไม่ใช่แบบสารคดี พี่อ๊อฟมีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ แล้วก็มีเส้นของความรักของผมกับนางเอกด้วย ผมว่าท่านผู้ชมน่าจะมีความสุขไปพร้อม ๆ กับผมด้วยเหมือนกันครับ”
และด้านสาว “โบว์ เมลดา” ได้พูดถึงความรู้สึกในเรื่องนี้ว่า “โดยส่วนตัว โบว์เป็นคนอีสานอยู่แล้ว เป็นคนขอนแก่น บ้านเดียวกับพี่ณเดชน์ แต่ชีวิตจริงก็ไม่ได้พูดอีสานบ่อยมาก มีเพี้ยนอยู่เหมือนกัน ต้องตั้งใจฟังกันให้ดี ละครเรื่องนี้เป็นผลงานละครเรื่องแรกที่โบว์มาทำงานให้กับทางช่อง 3 เป็นความโชคดีหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องของบท โปรดักชั่น ทีมงาน ดีใจมากที่ได้มาเล่นละครของพี่อ๊อฟ มันคือความใฝ่ฝัน แล้วมันก็ได้เป็นจริง ฝากติดตามละครกันด้วยนะคะ ทั้งโบว์และนักแสดงทุกคน ตั้งใจกันจริงๆ ค่ะ”
“ปฏิบัติการพาบักเขียวกลับบ้าน” เหนื่อยในเมืองหลวงมานานพอแล้ว พร้อมกลับบ้านด้วยกันในละคร “มนต์รักหนองผักกะแยง” เริ่มตอนแรก 14 พฤษภาคม นี้ ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 3 กด 33 และติดตามความป่วนตัวฮาเพิ่มเติมได้ทาง CH3Plus แล้วอย่าลืมกลับบ้านพร้อมกัน