
เป็นฉากหลังจากที่ ณเรศ(ฟิล์ม) และ ทราย(เอสเธอร์) ได้เบาะแสว่ามีบุคคลปริศนา ไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเบอร์ของ ณรินทร์(ภูริ หิรัญพฤกษ์) ทำให้ทั้งคู่สงสัยว่าณรินทร์อาจจะยังมีชีวิตอยู่ จึงตัดสินใจเดินทางไปขอให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ แต่ยังไม่ทันที่จะได้รู้ความจริง จู่ๆ ก็มีคนร้ายตามไล่ยิง ทำให้ต้องพากันหนีตายกันอลหม่าน ฉากนี้ผู้กำกับยกกองไปถ่ายทำกันที่ ตลาดน้ำ จังหวัดราชบุรี เมื่อทีมงานเซ็ตทุกอย่างพร้อม ผู้กำกับเรียกฟิล์ม-เอสเธอร์ มาซักซ้อมคิวทันที งานนี้ทั้งคู่ต้องเจองานหนัก มีทั้งคิวบู๊แอ็คชั่น และต้องวิ่งหนีข้ามกระโดดเรือกันกลางคลองกันจริงๆ จึงใช้เวลาซักซ้อมกันอยู่หลายรอบเพื่อป้องกันการผิดคิว แต่เพราะเป็นคลองที่มีเรือสัญจรไปมา ทำให้เรือที่จอดอยู่โคลงเคลง กว่าจะข้ามผ่านไปได้เล่นเอาทุลักทุเล เมื่อซักซ้อมกันจนคล่อง ก็เริ่มถ่ายจริงทันที เริ่มที่ ฟิล์มและเอสเธอร์ ได้ข่าวว่ามีบุคคลปริศนาจ่ายค่าโทรศัพท์ให้ภูริ ทั้งคู่สงสัยว่าภูริอาจจะยังไม่ตาย จึงรีบไปพิสูจน์หาความจริง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนร้ายบุกมาไล่ยิงทั้งคู่สนั่นกลางตลาด ฟิล์มรีบพาเอสเธอร์วิ่งหนีอลหม่าน แต่ระหว่างที่ฟิล์มพาเอสเธอร์วิ่งหนี จนมาหยุดชะงักเมื่อมีคนร้ายกลุ่มใหญ่ขับรถมาดักหน้า พร้อมกับกรูกันเข้ามาจับตัว แต่ฟิล์มกับเอสเธอร์ไม่ยอมให้จับง่ายๆ แท็กทีมกันสู้กับคนร้ายกันสุดชีวิต ก่อนจะหาจังหวะหนี แต่งานนี้โชคไม่ดีกลับไปจนมุมอยู่ตีนสะพานข้ามคลอง แถมคนร้ายยังวิ่งถือปืนไล่ตามมาติดๆ และเตรียมลั่นไกปืนยิงใส่ทั้งคู่ ฟากฟิล์มเห็นว่าไม่รอดแน่ หันซ้ายหันขวา ก่อนจะตัดสินใจพาเอสเธอร์กระโดดลงเรือที่จอดลอยขายของอยู่ และวิ่งข้ามหนีไปอีกฝั่งคลอง ท่ามกลางความตกตะลึงของแม่ค้าในตลาด เอาหล่ะสิ…เจอตามไล่ยิ่งเอาชีวิตกันขนาดนี้ ทั้งคู่จะรอดเงื้อมมือของคนร้ายไปได้สำเร็จหรือไม่? ห้ามพลาดละคร “พายุทราย” คืนวันจันทร์ 24 พฤษภาคมนี้ เวลา 20.30น. ทางช่องวัน31

