การเดินทางของฯพณฯ ระอีซี ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านไปยังเวเนซุเอลา คิวบา และนิกจารากัว ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนทางการเมืองและเศรษฐกิจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสายสัมพันธ์ในครั้งนี้
ในระหว่างการเดินทางไปเวเนซุเอลา นอกเหนือจากการพูดคุยร่วมกันระหว่างคณะผู้แทนระดับสูงและการเจรจาเป็นการส่วนตัวของประธานาธิบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือและบันทึกที่สำคัญ 19 ฉบับ
ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในสาขาต่างๆ ที่ได้ลงนามร่วมกัน อาทิเช่น การสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ, พลังงาน, การประกันภัย, การขนส่งทางเรือ, การศึกษาระดับอุดมศึกษา, การเกษตร, การแพทย์ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เป็นต้น
ประธานาธิบดีอิหร่านแสดงความหวังว่าปริมาณการค้าระหว่างอิหร่านและเวเนซุเอลาจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในก้าวแรก และ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในก้าวที่สอง
หลังจากสิ้นสุดการเดินทางเยือนเวเนซุเอลา ฯพณฯ ระอีซี ได้เดินทางไปยังเมืองมานากัวเพื่อพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์กับนิการากัว
ระหว่างการเดินทางเยือนนิการากัวครั้งนี้ ฯพณฯ ระอีซี ได้พบและพูดคุยกับ ฯพณฯ ดานิเอล ออร์เตกา ประธานาธิบดีนิการากัว และคณะผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือ 3 ฉบับ
การพบปะกับประธานสภาสมัชชาแห่งชาตินิการากัว และการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าบรรดาผู้แทนสภาดังกล่าว เป็นอีกส่วนหนึ่งของกำหนดการการเดินทางไปเยือนนิการากัวครั้งนี้
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงน้ำมัน และกระทรวงกลาโหมของอิหร่านยังได้จัดการประชุมแยกต่างหากกับมวลมิตรของพวกเขาอีกด้วย
ทั้งนี้ จุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางเยือนละตินอเมริการใครครั้งนี้ของประธานาธิบดีอิหร่าน คือ คิวบา โดยประธานาธิบดีคิวบาให้ต้อนรับประธานาธิบดีอิหร่านอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบแห่งการปฏิวัติในกรุงฮาวานา
พิธีลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคี 6 ฉบับระหว่างอิหร่านและคิวบาได้ถูกจัดขึ้นโดยมีประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศร่วมพิธีด้วย เอกสารความร่วมมือที่ได้ลงนามร่วมกัน อาทิเช่น ตุลาการ, การเมือง, ศุลกากร และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
ประธานาธิบดีของอิหร่านและคิวบายังตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมสำหรับความร่วมมือด้านเทคโนโลยี โดยพิจารณาถึงศักยภาพความสามารถของอิหร่านในด้านนาโนเทคโนโลยีและศักยภาพความสามารถของคิวบาในด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
แลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตระหว่างอิหร่านและอียิปต์
นอกจากนี้ตามการรายงานของสื่อ อิหร่านและอียิปต์จะมีการแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะมีการบรรลุข้อตกลงทั่วไปเกี่ยวกับการประชุมระหว่าง ฯพณฯ ระอีซี ประธานาธิบดีอิหร่าน และฯพณฯ อัลซีซีย์ ประธานาธิบดีอียิปต์ และมีแนวโน้มว่าการประชุมนี้จะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย
อิหร่านและอียิปต์ยังได้ตกลงจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อสานสัมพันธ์และประสานงานด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้นำสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้สนับสนุนการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอียิปต์ และกล่าวว่า เตหะรานยินดีที่อียิปต์จะทำการฟื้นฟูความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ถูกตัดขาดหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติในอิหร่านในปี ค.ศ. 1979 เนื่องจากไคโรอนุญาตให้โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี กษัตริย์แห่งอิหร่านที่ถูกขับไล่ลี้ภัย และการลงนามในข้อตกลงแคมป์เดวิดกับอิสราเอล ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและอียิปต์ยังคงอยู่ในระดับสำนักงานคุ้มครองผลประโยชน์